วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2552….ผมได้รับคำสั่งให้ต้องมานั่งหัวโด่ เป็นกรรมการคุมสอบข้าราชการตำรวจ ที่มีวุฒิปริญญาตรี แล้วต้องการเลื่อนชั้นเป็นสัญญาบัตร …ความจริงวันอาทิตย์ เป็นวันครอบครัว เป็นวันที่ผมมักจะปฏิเสธทุกภารกิจ ทุกกิจนิมนตร์ แต่บังเอิญวันนี้เป็นภารกิจ “เพื่อชาติ” บวกกับเบี้ยเลี้ยงค่าจ้างที่ค่อนข้างเย้ายวนใจ ซึ่งเมื่อชั่งน้ำหนักกับการต้องขับรถออกจากบ้านที่คลองห้า อ.คลองหลวง ปทุมธานี ผ่านเขต กทม. เข้าเขต สมุทรปราการ เป้าหมายอยู่ที่ ราม ฯ 2 แล้วละก็ ต้องนับว่าเป็นค่าจ้างที่ “คุ้มโคตร ๆ” ซึ่งผมก็ยังงง ๆ อยู่เหมือนกัน ว่าจะใช้เบี้ยเลี้ยงที่ได้มาหมดในชาตินี้ได้หรือไม่ เพราะมันเป็นปริมาณที่เยอะมาก….เท่าไหร่นะเหรอครับ ผมบอกแล้วอย่าอิจฉาก็แล้วกัน …ทั้งหมดแล้วบวกลบคูณหาร ผมได้ทั้งสิ้น “ห้าร้อยบาทถ้วน” ครับพี่น้อง …อิจฉาใช่มั๊ยหล่ะ หุ หุ
หน้าที่่ ที่ผมได้รับในวันนี้ คือต้องมานั่งเป็นหัวหน้าห้องคุมสอบตำรวจพันกว่าคนเห็นจะได้ นี่เฉพาะห้องที่ผมเป็นหัวหน้าคุมนะครับ ยังมีห้องอื่น ๆ อีก รวม ๆ แล้ววันนี้ก็มีพี่น้องตำรวจของผมเข้าสอบก็หลายหมื่นคนอยู่เหมือนกัน น่าเห็นใจครับ กับการต่อสู้ที่ค่อนข้างจะ “ดุดัน” การแข่งขันที่สูงมาก แต่จะมีผู้มีโอกาสสอบผ่านเพียงไม่กี่ร้อย ผมเห็นความตั้งใจของพี่น้องตำรวจของผมแล้ว รู้สึกดีใจครับ ที่บนโลกที่ดูเหมือนจะสิ้นหวังในวันนี้ ผมยังได้พบกับแววตา รอยยิ้ม ที่เปี่ยมหวังของพี่น้องอีกหลายพันคน ที่มารอหน้าห้องสอบตั้งแต่เช้า เพื่อจะรอเข้าสอบตอนบ่ายสองโมง
กฏเกณฑ์ของการคุมสอบครั้งนี้ค่อนข้างรัดกุม ด้วยมีสมมติฐานไว้ก่อนว่าผุ้เข้าสอบทุกคน มีความเป็นไปได้ที่จะทำการทุจริต คณะกรรมการสอบก็เลยต้องกำหนดกฏเหล็กที่ผมเองยังรู้สึกเครียดกับการที่ต้องมาเป็นผู้ควบคุมกฏเหล็กที่ว่านี้ …ตัวอย่างก็เช่น ผู้เข้าสอบทุกคนต้องใส่เสื้อยืด กางเกงเกงวอร์ม รองเท้าผ้าใบ มาทำการสอบ งงมั๊ยหล่ะ ว่าทำไมต้องทำกันอย่างงี้ด้วย นอกจากนี้ ระหว่างนั่งสอบ ให้ทุกคนถอดรองเท้าถุงเท้าวางไว้ใต้เก้าอี้นั่งสอบ …เอา เอากันเข้าไป แต่พอผมสอบถามกรรมการผู้ออกกฏก็ได้ความว่า ทั้งหมดทั้งสิ้นที่ว่ามานี้ เป็นเพียงมาตรการป้องกันการทุจริต ซึ่งที่ผ่านมามีบางคนซุกซ่อนอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์ เข้ามาในรองเท้า แล้วคอยส่งสัญญาณให้ผู้เข้าสอบ
นอกจากนี้ ก็ยังมีมาตรการที่คาดไม่ถึงอีกหลายเรื่อง แต่ผมคงไม่นำมาเล่าให้ฟังทั้งหมดหรอกครับ เพราะจุดประสงค์เล่าเรื่องในวันนี้ ก็เพียงเพื่ออยากให้รู้ว่า เวลาที่เราอยู่ท่ามกลางคนที่มีความฝัน มีความหวัง มันเหมือนมาช่วยปลุกพลัง ปลุกไฟในตัวให้พลอยมีประกายฝันไปด้วย ซึ่งตอนแรกผมก็แอบด่าคนสั่งอยู่เหมือนกัน ที่ทำให้ผมอดพักผ่อนในวันอาทิตย์ วันครอบครัว แต่หลังจากที่ผมได้สัมผัสกับพลังแห่งความหวังหลายร้อยหลายพันคนวันนี้แล้ว ผมคิดว่ามันคุ้มค่ามาก …ไม่ใช่เงินห้าร้อยที่ผมได้นะครับ แฮะ แฮะ…แต่เป็นพลังฝันที่ผมได้รับจากพี่น้องตำรวจของผมในวันนี้ …ขอบคุณนะครับที่แอบเติมพลังให้ผมโดยไม่ทันตั้งตัว
อ้อ…ก่อนจบ ขอแอบเม้าท์ สถานที่คุมสอบซักนิดเหอะครับ ทนไม่ได้จริง ๆ …ราม ฯ 2 ครับพี่น้อง ราม ฯ 2 สถานที่+ ห้องน้ำ “สะอาดน้อย โคตร ๆ “ ครับพี่น้อง …อนาถใจแทนอนาคตของชาติ ที่ได้เห็นตัวอย่างที่บรรดาผู้ใหญ่ให้ความสนใจ ความใส่ใจ น้อยถึงน้อยมากอย่างนี้ แล้วอนาคต จะหวังอะไรได้กับต้นแบบที่ถูกสร้างมาอย่างนี้ ….บุญรักษาครับพี่น้อง